เช่ารถเครนสำหรับพื้นที่แคบ (ต่อยอด): Check‑list ส่งให้บริษัทเช่ารถเครนก่อนเข้าซอยจริง

ภาพรวม: “ก่อนเข้าซอยจริง” ต้องส่งอะไรบ้าง (สรุป 5 หมวด)

ให้คิดว่า “การเข้าซอย + การตั้งรถ + การยก” คือระบบเดียวกัน ถ้าขาดข้อมูลเพียงจุดเดียว ระบบทั้งชุดจะหยุด
ดังนั้นเช็กลิสต์นี้จะแยกเป็น 5 หมวดที่ส่งให้ทีม รถเครนให้เช่า ได้ง่าย และตรวจทวนได้ในวันจริง

1. Route & Access: เส้นทางเข้า‑ออก, จุดเลี้ยว, จุดคอขวด, สิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ
2. Set‑up & Ground: จุดตั้งรถ, พื้นรับแรง, ทางเลือกแผ่นรอง/แผ่นเหล็ก, ตำแหน่งขากาง
3. Lift Data: น้ำหนักจริงรวมอุปกรณ์ยก, จุดยก, ระยะเอื้อม, ความสูง, ลำดับการยก
4. Safety & Coordination: สายไฟ, เขตหวงห้าม, สัญญาณมือ/วิทยุ, บทบาทคนคุมสัญญาณ
5. Admin & Time Window: เวลาเข้า‑ออก, ข้อจำกัดชุมชน/อาคาร, ขออนุญาตปิดถนน, ผู้ประสานงานหน้างาน

หมวดที่ 1: Route & Access — สเปกทางเข้าซอยที่ต้องส่ง “ก่อนรถเคลื่อน”

ซอยแคบมักมี “คอขวด” มากกว่าหนึ่งจุด: ปากซอย, โค้งเลี้ยว, ช่วงรถสวน, จุดใต้สายสื่อสาร/กันสาด,
และทางเข้าโครงการที่มีเสาค้ำ/รั้วชั่วคราว ข้อมูลชุดนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการ เครนให้เช่า ประเมินได้ว่า
ควรใช้รถรุ่นใด (เช่น เช่รถเครน 10 ตัน 4 ล้อ vs ขนาดอื่น) และต้องมี “แผนสำรอง” อะไรบ้าง

1.1 ส่ง “แผนที่ + จุดคอขวด” แบบที่ทีมรถเห็นภาพเดียวกัน

• ลิงก์พิกัด Google Maps / หมุดหน้าไซต์ + จุดจอดรวมพล (Rendezvous Point)
• ภาพถ่ายปากซอยทั้ง 2 ทิศ (เข้า‑ออก) ชัดเจนระดับสายตา และถ่าย “สูงขึ้น” ให้เห็นสายไฟ/ป้าย
• ระบุจุดเลี้ยวสำคัญ 1–3 จุด พร้อมภาพถ่ายมุมกว้าง (0.5× / Ultra‑wide)
• ระบุ “ห้ามจอด” ชั่วคราวบริเวณคอขวด (ถ้ามี) และผู้รับผิดชอบเคลียร์พื้นที่

1.2 วัด 3 ค่าให้ครบ: ความกว้าง, ความสูง, และ “มุมเลี้ยวจริง”

ข้อมูลที่ทำให้ทีม รถเครนให้เช่า ตัดสินใจได้ไว คือ “ค่าที่วัดได้จริง” ไม่ใช่คำประมาณการ
แนะนำให้ส่งภาพถ่ายที่เห็นตลับเมตร/ไม้เมตรในเฟรม เพื่อปิดช่องว่างการตีความ

• ความกว้างช่วงแคบสุด: วัดจากสิ่งกีดขวางถึงสิ่งกีดขวาง (กำแพง‑เสา‑รถจอด‑แผงกั้น)
• ความสูงช่วงแคบสุด: จุดใต้สาย/กันสาด/ป้าย/กิ่งไม้ (วัดแบบไม่สัมผัสเมื่อเป็นสายไฟ)
• มุมเลี้ยว: ถ่ายวิดีโอสั้น ๆ เดินตามแนวเลี้ยว พร้อมชี้ “แนวล้อหน้าจะพาด” และ “ท้ายรถจะกวาด”

1.3 Red Flags ที่ควรแจ้งล่วงหน้า (อย่ารอให้เจอหน้างาน)

• ช่วงที่ต้องถอยหลังนาน/ถอยเข้าซอย และมีคนเดินเท้าเยอะ (ต้องเตรียมคนคุมจราจร)
• เสาไฟ/ตู้สื่อสาร/กล้อง/กันสาดที่กินแนวทางเดินรถ
• ชุมชน/อาคารมีข้อกำหนดเวลาเสียงดัง หรือจำกัดเวลารถบรรทุกเข้า‑ออก
• มีสายไฟพาดขวางปากซอย หรือแนวสายต่ำผิดปกติ (ต้องประสานมาตรการแยกเขต)

หมวดที่ 2: Set‑up & Ground — จุดตั้งรถและพื้นรับแรง (หัวใจของงานซอยแคบ)

แม้เลือกเครนถูกขนาด แต่ถ้าพื้นไม่พร้อม “ความสามารถยก” จะถูกลดทอนทันที
ในแนวทางสหรัฐฯ (OSHA) ยังเน้นชัดว่าห้ามใช้งานเครนหากสภาพพื้นไม่แน่น ระบายน้ำ และปรับระดับเพียงพอ
รวมถึงต้องใช้วัสดุรองรับ เช่น mats/cribbing เพื่อให้เป็นไปตามสเปกผู้ผลิต
แนวคิดนี้นำมาประยุกต์กับไซต์ไทยได้ตรงประเด็น: ถ้าพื้นไม่พร้อม อย่าฝืนให้รถเข้าซอย

2.1 ส่ง “ผังจุดตั้งรถ” ที่สื่อสารได้ใน 30 วินาที

• ภาพถ่ายมุมสูง/มุมกว้างของพื้นที่ตั้งรถ (ยืนด้านหน้าแล้วถ่ายย้อนกลับให้เห็นพื้นที่ทั้งแผง)
• ขีดเส้นบนภาพ (Markup) ระบุตำแหน่ง: จุดจอดรถ, แนวขากาง, แนวชิ้นงาน, แนวคนเดิน/ทางหนีไฟ
• ระบุ “พื้นที่ต้องเคลียร์” ก่อนรถเข้าซอย (รถจอด, กระถาง, แผงเหล็ก, วัสดุกอง)

2.2 เช็กลิสต์พื้นรับแรง: ส่งข้อมูลที่ “ตรวจทานได้” ไม่ใช่ความรู้สึก

ให้ตอบ 6 คำถามนี้ แล้วส่งพร้อมภาพถ่าย/คลิป:

1. พื้นเป็นอะไร: คอนกรีต, แอสฟัลต์, บล็อกปูพื้น, ดินถม, พื้นยก/พื้นโพรง
2. มีร่อง/ฝาท่อ/บ่อพัก/งานเดินท่อใต้ดินใกล้จุดตั้งขาหรือไม่
3. มีความชันหรือสโลประบายน้ำ (น้ำขัง) หรือไม่
4. เคยมีรถหนักวิ่งผ่าน/จอดนานบริเวณนั้นหรือไม่ (เป็นสัญญาณว่าโครงสร้างรองรับอาจดี/หรือทรุดซ้ำ)
5. ต้องใช้วัสดุรองรับ: แผ่นรองขา, ค้ำไม้, หรือ แผ่นเหล็ก หรือไม่
6. พื้นที่ตั้งขาอยู่บนพื้นคอนกรีตเก่า/พื้นแตกร้าวหรือไม่ (ถ่ายภาพรอยร้าวแบบใกล้)

2.3 ระบุ “ต้องการแผ่นเหล็ก/แผ่นรอง” ให้ชัดก่อนรถเข้า

ในซอยแคบ พื้นที่กระจายน้ำหนักมักจำกัด การเตรียมแผ่นเหล็กปูทาง/รองขาให้พร้อมจึงลดทั้งความเสี่ยงและเวลาตั้งงาน
หากไม่แน่ใจจำนวนและการจัดวาง ให้ใช้บทความนี้เป็นฐาน:
เช่าแผ่นเหล็กปูทาง ใช้กี่แผ่นดี
และให้ผู้ให้บริการช่วยประเมินควบคู่กับรุ่นเครนที่จะใช้

2.4 กางขาไม่สุดทำได้ไหม? ต้อง “เคลียร์ข้อมูล” ก่อนให้รถเข้าซอย

ประเด็นนี้มักเป็นตัวตัดสินงานซอยแคบ: พื้นที่กางขาไม่พอ แต่ยังอยากใช้เครนให้จบงาน
ในต่างประเทศ ผู้ผลิตหลายรายมีเทคโนโลยีช่วยประเมินการตั้งขาแบบไม่สมมาตร/ไม่เต็มระยะ
(เช่นระบบคำนวณกำลังยกตามตำแหน่งขาจริง) แต่การตัดสินใจต้องอิงคู่มือผู้ผลิตและการประเมินของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
คุณควรส่ง “ข้อจำกัดพื้นที่จริง” ให้ผู้ให้บริการ ให้เช่ารถเครน ตั้งแต่ก่อนรถเคลื่อน เพื่อให้ทีมเลือกเครื่องที่รองรับได้
ไม่ใช่ไปลุ้นหน้างาน

แนวทางปฏิบัติที่แนะนำ:

• ส่งภาพ/ผังที่ระบุ “ระยะกางขาที่ทำได้จริง” ฝั่งซ้าย‑ขวา‑หน้า‑หลัง
• แจ้งสิ่งกีดขวางที่ “ย้ายไม่ได้” (กำแพง, เสาไฟ, ท่อ, สวน, ขั้นบันได)
• ขอให้ผู้ให้บริการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า “รุ่นที่ส่งเข้าหน้างานรองรับการตั้งขาแบบนี้” และกำลังยกที่ใช้คำนวณ

หมวดที่ 3: Lift Data — ข้อมูลชิ้นงานที่ต้องส่งเพื่อคำนวณแบบไม่เสี่ยงเดา

งานซอยแคบมีพื้นที่แก้ตัวน้อย: ถ้ารัศมีจริงยาวกว่าที่คิด หรือชิ้นงานหนักกว่าที่แจ้ง เครนจะถูก “derate”
และอาจต้องเปลี่ยนแผนทันที เพื่อให้ทีม รถเครนให้เช่า คำนวณได้แม่น ให้ส่งข้อมูลแบบ “วิศวกรรมพร้อมใช้”
โดยยึดหลักเดียวกับการอ่าน Load Chart

3.1 ส่ง “น้ำหนักจริง” แบบรวมทุกอย่าง (อย่าลืม Rigging)

• น้ำหนักชิ้นงาน (จากสเปก/ป้ายชื่อ/เอกสาร/ผู้ผลิต) + เผื่อน้ำหนักคราบ/น้ำ/อุปกรณ์ติดตั้ง
• น้ำหนักอุปกรณ์ยก: สลิง, แช็คเคิล, คานกระจายน้ำหนัก, ตะขอพิเศษ, ตะกร้าหรือกรง (ถ้ามี)
• ถ้าไม่แน่ใจ WLL/การเลือกอุปกรณ์ยก ใช้ตารางอ้างอิง:
  ตารางเลือกสลิงและแช็คเคิลให้ตรง WLL

3.2 ระยะเอื้อม (Radius) และความสูง: ส่งให้ทีม “คำนวณจากภาพได้”

ระยะเอื้อมคือระยะจากแกนหมุนเครนถึงจุดศูนย์ถ่วงของโหลดในตำแหน่งทำงานจริง
ซอยแคบมักทำให้ต้องตั้งรถห่างจุดยกมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
แนะนำให้ส่ง:

• ภาพถ่ายยืนที่ “ตำแหน่งคาดว่าจะตั้งรถ” แล้วชี้ไปยัง “จุดยก” พร้อมวัดระยะพื้น (คร่าว ๆ)
• ระบุความสูงที่ต้องวางชิ้นงาน (ระดับพื้นถึงจุดวาง) และสิ่งกีดขวางที่ต้อง “ยกข้าม”
• จำนวนรอบการยก (1 pick หรือหลาย pick) และลำดับการยก

3.3 ให้ทีมประเมินได้เร็วขึ้น: ส่ง “คลิป 30–60 วินาที” แบบเดินจริง

วิธีที่ช่วยลดการตีความผิดที่สุดคือคลิปเดินจากปากซอย → จุดตั้งรถ → จุดยก
พร้อมชี้ตำแหน่งคอขวดและถ่ายให้เห็นสายเหนือศีรษะ
ถ้าต้องการทำแบบก้าวหน้า ให้ถ่ายแบบ 0.5× และหมุนช้า ๆ (ลดภาพสั่น) เพื่อให้ทีมเทียบสเกลกับวัตถุจริงได้

หมวดที่ 4: Safety & Coordination — ในซอยแคบ “การสื่อสาร” คือระบบเซฟตี้หลัก

เสียงดัง, มุมอับ, คนเดินเท้า, และสายเหนือศีรษะ ทำให้ซอยแคบเป็นพื้นที่ที่ต้องยกระดับการสื่อสาร
แนวทางสหรัฐฯ กำหนดเรื่องสัญญาณมือและคุณสมบัติผู้ให้สัญญาณไว้อย่างชัดเจน
ซึ่งสะท้อนหลักการสากลที่ใช้ได้ทุกประเทศ: ต้องกำหนดผู้ให้สัญญาณ, ใช้มาตรฐานสัญญาณเดียวกัน
และสื่อสารช่องทางเดียวเพื่อไม่ให้คำสั่งตีกัน

4.1 กำหนด “Signal Person” คนเดียว และตกลงสัญญาณล่วงหน้า

• ระบุชื่อ/บทบาทผู้ให้สัญญาณ (คนเดียว) + ช่องทางสื่อสาร (วิทยุ/โทรศัพท์/สัญญาณมือ)
• ถ้าใช้สัญญาณมือ ให้ติดแผ่นสรุปสัญญาณในไซต์ และยึดมาตรฐานเดียวกันทั้งทีม
• ถ้าเป็นงานใกล้สายไฟ/มุมอับ แนะนำให้มีผู้เฝ้าระวังเฉพาะจุด (spotter) เพิ่มเติม

4.2 เขตหวงห้าม (Exclusion Zone) ในซอยแคบต้อง “ทำให้เห็นจริง”

• ทำแนวกันคนเข้าใกล้: กรวย/เทป/แผงกั้น และมีคนคุมแนวในช่วงยก
• กำหนดเส้นทางคนเดินและทางหนีไฟชัดเจน (อย่าปล่อยให้เดินผ่านใต้โหลด)
• ถ้าต้องปิดถนน/ปิดเลน ให้ระบุผู้รับผิดชอบขออนุญาตและติดป้ายล่วงหน้า

4.3 สายไฟและสิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ: ส่งข้อมูลเชิงระบบ ไม่ใช่ส่งแค่รูป

ในแพ็ก “ก่อนเข้าซอยจริง” ควรแนบ:

• แนวสายบนแผนที่/รูป Markup + จุดที่สายต่ำสุด
• มาตรการควบคุม: แนวเตือน, spotter, จำกัดมุมสวิง, หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เหมาะงาน
• ลิงก์มาตรฐานอ้างอิงที่โครงการใช้ (ถ้าต้องทำตามข้อกำหนดเฉพาะ) และแผนปฏิบัติในไซต์ไทย

หมวดที่ 5: Admin & Time Window — เงื่อนไขเวลาและเอกสารที่ทำให้ “เข้า‑ออก” ได้จริง

ต่อให้ข้อมูลทางเข้าและพื้นพร้อม แต่ถ้า “หน้าต่างเวลา” ไม่ชัด งานซอยแคบจะมีความเสี่ยงดีเลย์สูง
เพราะต้องพึ่งการเคลียร์รถจอด, การปิดทางชั่วคราว, และการประสานงานกับนิติ/ชุมชน
หมวดนี้เป็นตัวเร่งความเร็วให้การทำงานของ ให้เช่ารถเครน ไม่สะดุด

5.1 ระบุเวลา 3 ช่วงให้ครบ

• เวลารถเข้าซอย (Arrival Window) และเวลาที่ต้องออก (Hard Stop)
• เวลาที่อนุญาตให้ยก (Lift Window) โดยคำนึงถึงเสียง/ข้อกำหนดอาคาร
• เวลาสำรองสำหรับเคลียร์ทาง/ตั้งเขต/ตั้งขา (Buffer Time)

5.2 เอกสารที่ควรถาม/ควรเตรียม (แนวคิดสากล)

หลายประเทศให้ความสำคัญกับการตรวจสภาพและหลักฐานกำกับเครื่องจักรอย่างเข้มงวด
ตัวอย่างจากญี่ปุ่นมีระบบ “ใบรับรองการตรวจเครน” และขั้นตอนการตรวจใช้งานสำหรับเครนเคลื่อนที่
ซึ่งสะท้อนหลักคิดที่ผู้ว่าจ้างไทยควรยึด: ขอเอกสารให้ครบก่อนเริ่ม เพื่อคุมความเสี่ยงและความรับผิด

• หลักฐานการตรวจสภาพตามรอบ/บันทึกซ่อมบำรุง (รวมอุปกรณ์ยกที่สำคัญ)
• คุณสมบัติผู้ปฏิบัติงาน: คนขับ/ผู้ยึดโยง/ผู้ให้สัญญาณ และบทบาทความปลอดภัยในไซต์
• เอกสารการทำงานในพื้นที่สาธารณะ (ถ้าต้องปิดถนน/ตั้งอุปกรณ์กินพื้นที่)
• ชื่อผู้ประสานงานหน้างานทั้งฝั่งผู้ว่าจ้างและฝั่งผู้ให้บริการ

หากคุณกำลังคัดเลือกผู้ให้บริการ เครนให้เช่า แบบเป็นระบบ ใช้กรอบประเมินนี้เสริมได้:
เลือกผู้ให้บริการเช่ารถเครนและแผ่นเหล็กปูทางอย่างไร ให้โปรเจกต์ตรงเวลา
และหากต้องตัดสินใจรูปแบบสัญญา อ่านเพิ่ม:
เช่ารถเครนรายวัน หรือรายเดือน แบบไหนคุ้มกว่า?

แบบฟอร์ม “ส่งครั้งเดียว” (Copy‑Paste ไปส่ง LINE/อีเมลได้ทันที)

ด้านล่างคือข้อความเทมเพลตที่ออกแบบมาเพื่อให้ทีม รถเครนให้เช่า อ่านแล้วประเมินได้เร็ว
คุณสามารถวางใน LINE/อีเมล แล้วแนบรูป/คลิปตามหัวข้อ

หัวข้อ: ขอประเมิน “ก่อนเข้าซอยจริง” (Pre‑Alley Checklist) – งานเช่ารถเครนพื้นที่จำกัด

1) ข้อมูลงานยก
- ประเภทชิ้นงาน/รูปแบบงาน:
- น้ำหนักชิ้นงาน (kg/ton) + น้ำหนักอุปกรณ์ยก (ถ้าทราบ):
- จุดยก/จุดวาง/จำนวนรอบยก:
- ต้องยก “ข้าม” สิ่งกีดขวาง/กันสาด/รั้วหรือไม่:

2) ตำแหน่งหน้างาน
- พิกัด Google Maps:
- จุดนัดรวมพล/จุดจอดรอ:
- เวลาเข้าซอย (Arrival Window) / เวลาที่ต้องออก (Hard Stop):

3) Route & Access (แนบรูป/คลิป)
- รูปปากซอย 2 ทิศ + คลิปเดินจากปากซอยถึงหน้างาน:
- จุดคอขวด (ระบุจำนวนจุด):
- ความกว้างช่วงแคบสุด (แนบรูปเห็นตลับเมตร):
- ความสูงช่วงแคบสุด (สาย/กันสาด/ป้าย):

4) Set‑up & Ground
- จุดตั้งรถ (แนบรูปและขีดตำแหน่ง):
- พื้นเป็น (คอนกรีต/แอสฟัลต์/ดินถม/บล็อกฯ):
- มีฝาท่อ/บ่อพัก/งานท่อใต้ดินใกล้จุดตั้งขาหรือไม่:
- ต้องใช้แผ่นรอง/แผ่นเหล็กหรือไม่ (ถ้าคาดว่าใช่ ระบุพื้นที่):

5) Safety & Coordination
- มีสายไฟ/สายสื่อสารพาดเหนือศีรษะหรือไม่ (แนบรูป + จุดต่ำสุด):
- ผู้ให้สัญญาณ (ชื่อ/เบอร์/ช่องทางสื่อสาร):
- ต้องปิดเลน/กั้นพื้นที่/เคลียร์รถจอดหรือไม่ (ผู้รับผิดชอบ):

หมายเหตุ: ต้องการประเมินว่าควรใช้รุ่นใด (เช่ารถเครน 4 ล้อ / เช่รถเครน 10 ตัน 4 ล้อ / อื่น ๆ) และต้องเตรียมอุปกรณ์เสริมอะไรบ้างก่อนรถเข้าซอยจริง

ตัวอย่างเคสสั้น: งานเมืองต้องการความคล่องตัว (โฟกัส เช่รถเครน 10 ตัน 4 ล้อ)

สถานการณ์: ปากซอยมีสายสื่อสารต่ำ + ทางเลี้ยวแคบ + พื้นที่ตั้งรถจำกัด
ถ้าส่งข้อมูลเพียง “น้ำหนักชิ้นงาน” อาจเลือกเครนผิดรุ่นหรือเผื่อราคาเกินจริง
แต่ถ้าส่ง Pre‑Alley Data Pack ครบ ทีม ให้เช่ารถเครน จะสามารถ:
(1) ประเมินความเหมาะสมของการใช้ เช่รถเครน 10 ตัน 4 ล้อ
(2) วางแผนเส้นทางเข้า‑ออกและจุดตั้งรถ
(3) เตรียมแผ่นเหล็ก/อุปกรณ์รองรับพื้น
(4) กำหนดบทบาทผู้ให้สัญญาณและแนวกั้นพื้นที่
ได้ก่อนรถเข้าถึงคอขวดจริง ทำให้งานจบตามหน้าต่างเวลา

สรุป: เช็กลิสต์นี้ช่วยอะไรกับงาน เช่ารถเครน ในซอยแคบ

• ลดโอกาส “รถเข้าไม่ได้/ตั้งขาไม่ได้” ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของดีเลย์ในงานเมือง
• ช่วยให้ทีม รถเครนให้เช่า เลือกรุ่นได้ตรงงานและคำนวณกำลังยกจากข้อมูลจริง
• ทำให้ผู้ว่าจ้างคุมความเสี่ยงด้านพื้นรับแรง สายไฟ และการสื่อสารได้ตั้งแต่ก่อนรถเคลื่อน
• ทำให้ใบเสนอราคาจากหลายเจ้าเทียบกันได้ เพราะทุกคนได้รับข้อมูลฐานเดียวกัน

หากต้องการให้ทีมช่วยประเมินรุ่น/คิว/อุปกรณ์เสริม ให้เริ่มจากหน้า
บริการเช่ารถเครน 10–55 ตัน
หรือดูภาพรวมบริการทั้งหมดที่
PST.CRANE Services

FAQ: คำถามพบบ่อย (8 ข้อ)

1) ก่อนให้รถเข้าซอย ต้องส่งข้อมูลอะไรให้บริษัท รถเครนให้เช่า บ้าง?

ส่ง 5 หมวด: (1) Route & Access (คอขวด/ความกว้าง/ความสูง) (2) Set‑up & Ground (จุดตั้งรถ/พื้นรับแรง/แผ่นรอง)
(3) Lift Data (น้ำหนักรวมอุปกรณ์/รัศมี/ความสูง/ลำดับยก) (4) Safety & Coordination (สายไฟ/เขตหวงห้าม/ผู้ให้สัญญาณ)
(5) Admin & Time Window (เวลาที่เข้า‑ออกได้/การปิดทาง/ผู้ประสานงาน)

2) วัดทางเข้าซอยอย่างไรให้ทีม เครนให้เช่า ประเมินได้จริง?

วัด “ช่วงแคบสุด” ของความกว้างและความสูง พร้อมถ่ายรูปให้เห็นตลับเมตร/ไม้เมตรในภาพ
และถ่ายคลิปเดินจากปากซอยถึงจุดตั้งรถ โดยชี้จุดเลี้ยวและจุดที่ท้ายรถจะกวาด
ข้อมูลภาพที่มีสเกลจริงช่วยลดการเดาผิดมากที่สุด

3) ถ้าพื้นที่ตั้งขาไม่พอ กางขาไม่สุด ยังทำงานได้ไหม?

ทำได้หรือไม่ขึ้นกับ “รุ่นเครน + คู่มือผู้ผลิต + การคำนวณกำลังยกตามตำแหน่งขาจริง” ไม่ควรตัดสินใจจากความรู้สึก
วิธีที่ถูกคือส่งข้อจำกัดระยะกางขาที่ทำได้จริงให้ผู้ให้บริการประเมินล่วงหน้า และขอการยืนยันกำลังยกที่ใช้คำนวณก่อนให้รถเข้าซอย

4) เมื่อไรควรเตรียมแผ่นเหล็ก/แผ่นรองขาเครน?

เมื่อพื้นเป็นดินถม/พื้นบล็อก/พื้นแตกร้าว/มีโอกาสทรุด หรือมีฝาท่อ‑บ่อพัก‑งานท่อใต้ดินใกล้จุดตั้งขา
ให้ส่งภาพพื้นและตำแหน่งขากางให้ทีมประเมิน และใช้อ้างอิงจาก
คู่มือแผ่นเหล็กปูทาง
เพื่อกำหนดจำนวนและการจัดวางที่เหมาะสม

5) ในซอยแคบต้องเตรียม “คนให้สัญญาณ” อย่างไร?

กำหนดผู้ให้สัญญาณหลัก 1 คน (Signal Person) พร้อมช่องทางสื่อสารที่ตกลงกันล่วงหน้า
ถ้าใช้สัญญาณมือควรยึดมาตรฐานเดียวกันทั้งทีม และถ้าพื้นที่มีมุมอับหรือใกล้สายเหนือศีรษะให้มี spotter เพิ่มเติม

6) อยาก เช่รถเครน 10 ตัน 4 ล้อ เข้าซอยแคบ ต้องเช็กอะไรเป็นพิเศษ?

เช็ก 3 เรื่องก่อน: (1) Route & Access—คอขวดและมุมเลี้ยว (2) Set‑up—จุดตั้งรถและพื้นที่กางขาจริง (3) Lift Data—น้ำหนักรวมอุปกรณ์และรัศมีจริง
แล้วส่งเป็นแพ็ก “ก่อนเข้าซอยจริง” เพื่อให้ทีมเลือกเครื่องและอุปกรณ์รองรับพื้นได้ถูกต้อง

7) ควรขอเอกสารอะไรจากบริษัท ให้เช่ารถเครน ก่อนเริ่มงาน?

ขอหลักฐานการตรวจสภาพตามรอบ/บันทึกซ่อมบำรุงที่เกี่ยวข้อง, คุณสมบัติผู้ปฏิบัติงานตามบทบาท (คนขับ/ผู้ให้สัญญาณ/ผู้ยึดโยง),
และเอกสารประกอบการทำงานในพื้นที่สาธารณะกรณีต้องปิดถนนหรือกั้นพื้นที่
แนวคิดคือ “เอกสารพร้อมก่อนรถเคลื่อน” ลดความเสี่ยงและข้อโต้แย้งภายหลัง

8) ส่งเช็กลิสต์แล้ว ขั้นตอนถัดไปควรทำอะไร ก่อนวันยก?

ให้ทีมยืนยันรุ่นและแผนเข้าถึง, นัดเวลาตั้งงาน, ระบุผู้ประสานงานหน้างาน, และทำการเคลียร์ทาง/ทำเขตกั้นก่อนรถเข้าซอยจริง
หากเงื่อนไขเข้ม (คอขวดหนัก/สายไฟ/พื้นเสี่ยง) ควรนัดสำรวจหน้างานย่อยเพื่อปิดความเสี่ยงก่อนวันปฏิบัติ