เช่ารถเครนราคาเท่าไหร่? คู่มือคิดราคา 10–55 ตัน + เช็กลิสต์เตรียมข้อมูลก่อนขอใบเสนอราคา

หากคุณกำลังหา เช่ารถเครน แล้วอยากรู้ว่า “ราคา” ควรอยู่ระดับไหน บทความนี้ตั้งใจทำให้คุณคุมงบได้แบบมืออาชีพ:
แยกส่วนประกอบราคา (ไม่เดาสุ่ม), อธิบายตัวแปรสำคัญของเครนช่วง 10–55 ตัน, และให้ “ชุดข้อมูล” ที่ส่งครั้งเดียวแล้วได้ใบเสนอราคาที่แม่นยำ
ลดโอกาสหน้างานบานปลาย เหมาะทั้งผู้ควบคุมงาน วิศวกรโครงการ และทีมจัดซื้อที่ต้องเทียบหลายเจ้าอย่างเป็นระบบ

หากต้องการดูบริการ รถเครนให้เช่า ของเรา (10–55 ตัน) และโซนให้บริการ:
บริการรถเครน 10–55 ตัน |
ต้องการงานยก+ขนย้ายในคันเดียวดู รถเฮี๊ยบ |
งานสูง/งานซ่อมบำรุงดู รถกระเช้า |
งานพื้นอ่อน/ต้องทำทางชั่วคราวดู แผ่นเหล็กปูทาง

ทำไมราคาเช่ารถเครน “ไม่มีตัวเลขเดียว”

คำถาม “เช่ารถเครน ราคาเท่าไหร่” มักตอบไม่ได้แบบฟันธง เพราะราคาไม่ได้ขึ้นกับ “ตัน” อย่างเดียว
แต่ขึ้นกับ “อัตราฐาน + ความยากหน้างาน + เงื่อนไขความปลอดภัย + ข้อจำกัดเวลา/สถานที่”
ถ้าคุณส่งข้อมูลไม่ครบ ผู้ให้บริการจะต้องเผื่อความเสี่ยง ทำให้ราคาสูงกว่าที่ควร หรือเสนอไม่ได้ในครั้งแรก

โดยทั่วไป การประเมินราคา ให้เช่ารถเครน จะถูกขับเคลื่อนด้วยตัวแปรหลัก 6 กลุ่ม:

1. ความสามารถยกจริงตามรัศมี (Rated/Derated Capacity): น้ำหนักเท่าเดิมแต่ “รัศมีไกลขึ้น/ยกสูงขึ้น/หลบสิ่งกีดขวาง” ราคามักขยับทันที
2. การเข้าถึงและการตั้งขา (setup): พื้นที่กางขา, ทางเข้าหน้างาน, พื้นรับแรง, ความชัน, ระยะถอย/เลี้ยว
3. รูปแบบค่าเช่า: เหมาชั่วโมง/เหมาวัน/เหมาระยะยาว (รายละเอียดเทียบเชิงต้นทุนรวม ดูเพิ่มได้ที่ บทความรายวัน vs รายเดือน)
4. อุปกรณ์และทีมประกอบงาน: สลิง/อุปกรณ์ยกเฉพาะ, คนผูกมัด/คนให้สัญญาณ, งานยกหลายจุด (multi-pick)
5. ข้อกำหนดความปลอดภัย/กฎหมาย/พื้นที่ควบคุม: ใกล้สายไฟ, พื้นที่สาธารณะ, ต้องปิดถนน/ทำ Traffic management
6. เวลาและความต่อเนื่องของงาน: ทำงานกลางคืน, งานเร่งเปิดไลน์ผลิต, ห้ามหยุดนาน, หรือมีช่วง “Standby” รอหน้างาน

ถ้าคุณต้อง “คุมงบ” ให้ได้จริง เป้าหมายไม่ใช่หา เครนให้เช่า ที่ถูกที่สุดในกระดาษ
แต่คือทำให้ใบเสนอราคา “เทียบได้บนฐานข้อมูลเดียวกัน” และลดค่าใช้จ่ายแฝงที่มักเกิดตอนลงหน้างาน

โมเดลคิดราคา 10–55 ตัน: แตกเป็น 6 หมวดค่าใช้จ่าย

เพื่อให้คุณประเมิน “กรอบราคา” ได้เร็วแบบไม่มั่ว ให้คิดราคา รถเครนให้เช่า เป็น 6 หมวด
(ผู้ให้บริการแต่ละเจ้าจะจัดกลุ่มต่างกัน แต่สาระจะวนอยู่ที่ชุดเดียวกัน):

แนวคิดนี้ช่วยคุณ “ซอยราคา” ให้เห็นว่าอะไรคือแก่น และอะไรคือค่าเพิ่มตามหน้างาน
เมื่อคุณขอราคา ให้เช่าเครน จากหลายเจ้า คุณจะเทียบได้จริง เพราะถามคำถามถูกจุด

ช่วง 10–55 ตันควรเริ่มคิดราคาจากอะไร (รวมเช่ารถเครน 4 ล้อ)

ช่วง 10–55 ตัน เป็นช่วงที่นิยมในงานเมือง/โรงงาน เพราะคล่องตัวและครอบคลุมหลายประเภท
หากคุณยังไม่ชัวร์เรื่องการเลือกขนาด “ตามรัศมีและความสูง” แนะนำอ่านเสริม:
คู่มือเลือกขนาดเครน 10–55 ตัน
และหากต้องสื่อสารเชิงเทคนิคกับผู้ให้บริการ แนะนำ:
วิธีอ่าน Load Chart

1) กลุ่ม 10–25 ตัน: จุดแข็งคือความคล่องตัว และมักจบงานไว

งานจำนวนมากที่ต้องการ “เข้า–ออกพื้นที่จำกัด” จะเลือก เช่ารถเครน 4 ล้อ ในกลุ่ม 10–25 ตัน
เพราะเลี้ยวง่ายกว่าและตั้งงานได้เร็วในพื้นที่เมือง อย่างไรก็ตาม ราคาจะคุมได้ก็ต่อเมื่อคุณตอบ 3 คำถามนี้:
(1) จุดตั้งเครนกางขาได้เต็มหรือไม่ (2) มีสิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ/สายไฟหรือไม่ (3) ต้องยกกี่จุดและใช้เวลาจริงเท่าไหร่

Description: ภาพประกอบเพื่ออธิบายปัจจัยด้านพื้นที่และรัศมีที่กระทบ “ราคา” มากกว่าการดู “ตัน” เพียงอย่างเดียว

URL: https://pstcrane.net/wp-content/uploads/2025/10/crane-10t-4wheel-warehouse-bangkok.jpg

2) กลุ่ม 25–35 ตัน: ราคาแปรผันสูงเพราะ “รัศมี + ความสูง + สิ่งกีดขวาง”

กลุ่มนี้มักถูกเรียกใช้กับงานยกอุปกรณ์ขึ้นอาคาร งานตั้งเสา งานยกเข้าช่องเปิด ฯลฯ
ในเชิงราคา ความต่างสำคัญคือ “ต้องตั้งเครนได้ตำแหน่งใกล้–ไกลแค่ไหน” และ “จำเป็นต้องยกข้ามอะไร”
เพราะยิ่งขยับรัศมีออก กำลังยกจะลดลงตาม Load Chart ส่งผลให้ต้องอัปไซส์เครนและงบจะกระโดดทันที

Description: ภาพตัวอย่างช่วยสื่อสาร “ข้อจำกัดพื้นที่ตั้ง” ซึ่งเป็นตัวแปรหลักของราคาในงานเมือง

URL: https://pstcrane.net/wp-content/uploads/2025/10/crane-25t-4wheel-bangkok.jpg

3) กลุ่ม 50–55 ตัน: ราคาขึ้นกับโลจิสติกส์และการจัดการความเสี่ยง

เมื่อขนาดเข้าใกล้ 50–55 ตัน “ค่าเช่าฐาน” อาจไม่ใช่สิ่งที่แพงที่สุดเสมอไป
แต่อะไรที่ทำให้ราคาขยับจริงคือ logistics (เส้นทาง, ช่วงเวลาเดินรถ, จุดตั้งที่ต้องมั่นคง) และความเสี่ยงหน้างาน
หากต้องทำงานริมถนน/ในพื้นที่สาธารณะ/ใกล้แนวสายไฟ มักมีค่าใช้จ่ายด้านการกั้นพื้นที่ แผนงาน และคนคุมความปลอดภัยเพิ่ม

Description: งานกลุ่มนี้ควรให้ความสำคัญกับแผนหน้างาน/การกั้นพื้นที่/เวลาปฏิบัติงาน เพื่อหลีกเลี่ยงค่า Standby

URL: https://pstcrane.net/wp-content/uploads/2025/10/crane-rental-50t-hoist-to-building-pathum-thani.jpg

หมายเหตุ: หากหน้างาน “แคบมาก” หรือ “ต้องตั้งขาในพื้นที่จำกัด” ให้ดูเทคนิคเพิ่มเติมได้จาก
เทคนิคตั้งเครนในพื้นที่แคบ
และเพื่อคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยก่อนเริ่มยก แนะนำใช้
Pre-lift safety checklist

ค่าใช้จ่ายแฝงที่ทำให้งบพัง (และวิธีป้องกัน)

ต้นเหตุที่ทำให้งบ “บานปลาย” ในการหา รถเครนให้เช่า มักไม่ได้เกิดจากค่าเช่าฐาน
แต่เกิดจากค่าใช้จ่ายแฝงที่ไม่ถูกคุยตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลหน้างานไม่ชัดเจน

• Standby / Waiting Time: รถและทีมพร้อมทำงานแต่ต้องรอ (รอเปิดพื้นที่, รอชิ้นงาน, รอเคลียร์คน/รถ) วิธีแก้คือกำหนด “เวลาเริ่มยกจริง” และจัดลำดับงานให้พร้อมก่อนรถถึง
• ย้ายจุดตั้งเครนหลายรอบ: หากต้องตั้ง–รื้อ–ตั้งใหม่หลายตำแหน่ง เวลาจะเพิ่มแบบทวีคูณ ควรส่งแผนผังจุดตั้งและจำนวน “จุดยก (picks)” ให้ชัด
• พื้นไม่พร้อม: พื้นทรุด/พื้นแตก/ขอบคอนกรีตเสี่ยง ทำให้ต้องเสริมแผ่นรอง/ปูทางชั่วคราว (ดูบริการ ให้เช่าแผ่นเหล็กปูทาง)
• งานใกล้สายไฟ/พื้นที่สาธารณะ: ต้องมีแผนกั้นพื้นที่ คนคุม และมาตรการเฉพาะ (อธิบายเต็มใน ระยะปลอดภัยใกล้สายไฟ)
• น้ำหนักชิ้นงาน “จริง” ไม่ตรง: หน้างานพบว่าหนักกว่า/จุดยกไม่พร้อม ต้องเปลี่ยนวิธีหรือเปลี่ยนขนาดเครน ทำให้เกิดค่าเสียเวลาและค่าเปลี่ยนแผน
• หน้าต่างเวลางาน (time window) แคบ: งานกลางคืน/ห้ามเสียง/ต้องเปิดไลน์เช้า ทำให้ค่าแรงและค่าเตรียมงานเพิ่ม ควรระบุเงื่อนไขเวลาใน RFQ ตั้งแต่แรก

แนวทางป้องกันที่ได้ผลที่สุดคือ “ส่งข้อมูลให้ครบ” และ “เทียบใบเสนอราคาบนข้อกำหนดเดียวกัน”
ซึ่งเราจะให้เช็กลิสต์แบบใช้งานจริงในหัวข้อ RFQ ด้านล่าง

บทเรียนจาก USA/UK/Germany/Japan: เหตุผลที่ “ราคา” ผูกกับ “ความปลอดภัย”

หลายคนเข้าใจว่าตลาด ให้เช่ารถเครน แข่งขันด้วยราคาอย่างเดียว แต่ในประเทศที่อุตสาหกรรมเข้มแข็ง
“ระบบความปลอดภัยและความรับผิดชอบ” เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่ต้องสะท้อนในใบเสนอราคา
การเข้าใจกรอบนี้ช่วยให้คุณคัดผู้ให้บริการได้ดี และคุมงบได้แบบยั่งยืน (ไม่ใช่ถูกวันนี้ แพงพรุ่งนี้ตอนเกิดปัญหา)

USA: OSHA บังคับ “การวางแผน” ในงานใกล้สายไฟและความพร้อมของทีม

ในสหรัฐฯ กฎ OSHA เรื่องการทำงานใกล้สายไฟ (Cranes & Derricks) ระบุแนวคิด “ต้องประเมินความเสี่ยงล่วงหน้า”
และมีมาตรการป้องกันการล้ำระยะ เช่น การประชุมวางแผน การกั้นเขตเตือน การใช้ spotter เฉพาะกิจ ฯลฯ
มาตรการเหล่านี้แปลเป็นต้นทุนด้านคน/เวลา/อุปกรณ์ และเป็นเหตุผลว่าทำไมงานบางหน้างานจึงราคาไม่เท่ากัน
(ดูมาตรฐาน: OSHA 1926.1408)

อีกตัวอย่างคือข้อกำหนดด้าน “ผู้ควบคุมเครนต้องผ่านการฝึกอบรม/รับรอง/ประเมินความสามารถ”
ซึ่งสะท้อนเป็นคุณภาพทีมและต้นทุนแรงงานที่เหมาะสมตามความเสี่ยงของงาน
(ดูมาตรฐาน: OSHA 1926.1427)

UK: HSE เน้น “ผู้มีความสามารถ (competent person)” และแยกความรับผิดชอบ Crane Hire vs Contract Lift

ในสหราชอาณาจักร HSE ระบุว่าการยกต้อง “วางแผนโดยผู้มีความสามารถ ควบคุมกำกับ และทำอย่างปลอดภัย”
พร้อมชี้ให้เห็นว่าความรับผิดชอบระหว่างผู้เช่าและผู้ใช้งานมัก “แชร์กัน” และถ้าผู้ว่าจ้างไม่มีความสามารถเพียงพอควรเลือกแบบ contract lift
(อ่านแนวคิด: HSE – Lifting operations)

ประเด็นนี้สำคัญต่อราคา เพราะ “contract lift” มักรวมการวางแผน งานเอกสาร และการกำกับดูแลมากกว่า “crane hire” แบบทั่วไป
รวมถึงแนวปฏิบัติในคู่มืออุตสาหกรรม เช่น CPA ที่มีคำถามมาตรฐานเพื่อรับข้อมูลก่อนเสนอราคา
(ดู: HSE – LOLER,
และ CPA Guide: Crane Hire & Contract Lift)

Germany: DGUV ให้ความสำคัญกับ “การอบรม/การมอบหมายงาน/การพิสูจน์ความสามารถ” ของผู้ขับเครน

แนวทางของเยอรมนีผ่านเอกสาร DGUV สื่อสารชัดว่าการปฏิบัติงานเครนขึ้นกับความสามารถและการกระทำอย่างรับผิดชอบ
โดยองค์กรต้องให้การอบรมและมีหลักฐานความสามารถของผู้ปฏิบัติงาน สาระนี้สะท้อนกลับมาที่โครงสร้างต้นทุนของผู้ให้บริการที่จริงจัง
(อ้างอิง: DGUV Information 209-091,
และกฎพื้นฐาน DGUV Vorschrift 52 “Krane”)

Japan: ญี่ปุ่นเน้นข้อกำหนดต่ออุปกรณ์ยกและระยะใกล้สายไฟ (separation distance)

ญี่ปุ่นมีการกำหนดข้อกำหนดต่ออุปกรณ์ยกและการใช้งานในระดับที่ละเอียด (เช่น นิยาม Rated Capacity และข้อกำหนดต่ออุปกรณ์สลิง/ตะขอ)
ซึ่งทำให้องค์กรต้องให้ความสำคัญกับ “คุณภาพอุปกรณ์ + การตรวจสภาพ + วิธีทำงาน”
(ดู: Safety Ordinance for Cranes – Japanese Law Translation)

อีกตัวอย่างที่เห็นภาพทันทีคือแนวทาง “ระยะห่างจากสายไฟตามแรงดัน” ที่หน่วยงาน/บริษัทระบบไฟฟ้าญี่ปุ่นสื่อสารต่อผู้รับเหมา
ซึ่งสะท้อนว่า งานใกล้แนวไฟมักต้องเตรียมมาตรการและเวลาเพิ่ม จึงไม่ควรเทียบราคากับงานโล่งแบบเดียวกัน
(ดู: Kansai Transmission & Distribution – Separation distance)

สรุป: ถ้าคุณเลือกผู้ให้บริการแบบ “คิดครบเรื่องความปลอดภัย” ใบเสนอราคาอาจไม่ถูกที่สุด
แต่จะลดความเสี่ยงหน้างานที่ทำให้เกิดต้นทุนแฝง (ล่าช้า, เปลี่ยนแผน, อุบัติเหตุ, และปัญหาความรับผิดชอบ)

เช็กลิสต์ข้อมูลก่อนขอใบเสนอราคา (RFQ) ให้ตอบราคาได้เร็วและใกล้เคียงความจริง

ต่อไปนี้คือ “ข้อมูลขั้นต่ำระดับมืออาชีพ” ที่แนะนำให้ส่งเมื่อคุณขอ เครนให้เช่า หรือ ให้เช่าเครน
ยิ่งครบ ยิ่งลดการเผื่อความเสี่ยง และทำให้คุณได้ราคาที่คมขึ้น

หัวข้อ: ขอใบเสนอราคาเช่ารถเครน (10–55 ตัน)

1) พิกัดหน้างาน/จุดตั้งเครน: __________________ (แนบลิงก์แผนที่)
2) ประเภทงาน: __________________ (ยกติดตั้ง/ยกย้าย/ยกขึ้นอาคาร ฯลฯ)
3) น้ำหนักชิ้นงาน (รวม rigging ถ้าทราบ): ________ ตัน/กก.
4) จำนวนจุดยก (picks) และลำดับงาน: ____________
5) รัศมีโดยประมาณ: ________ ม. / ความสูงยก: ________ ม.
6) สิ่งกีดขวาง/แนวสายไฟ/พื้นที่หวงห้าม: ____________
7) สภาพพื้น/ข้อจำกัดการกางขา: ___________________
8) วัน–เวลาเริ่มงาน / deadline: _____________________
9) ต้องการอุปกรณ์เสริม (สเปรดเดอร์/สลิงพิเศษ/แผ่นเหล็กปูทาง): ____________
10) เอกสารเซฟตี้/ใบอนุญาตที่ไซต์ต้องการ: ____________

แนบ: รูปหน้างาน 4 มุม + รูปทางเข้า + แบบ/สเกตช์ (ถ้ามี)
ผู้ประสานงานหน้างาน/เบอร์: ______________________

ขั้นตอนขอราคาและนัดคิวหน้างานกับ PST.CRANE

เราจัดทำกระบวนการเสนอราคาให้ “คุมงบและลดความเสี่ยง” โดยยึดหลักข้อมูลครบ–สื่อสารชัด–ทำงานตามแผน:

1. ส่งข้อมูลตาม RFQ + รูปหน้างาน (แนะนำส่งทาง หน้า Contact หรือ LINE)
2. ทีมประเมินขนาดเครน/รูปแบบทีม/อุปกรณ์ยกที่เหมาะสม (ดูบริการรวมได้ที่ Services)
3. หากหน้างานเสี่ยงเรื่องพื้น/พื้นที่แคบ/ใกล้สายไฟ อาจแนะนำสำรวจหน้างานหรือทำแผนเพิ่มเติม
4. ออกใบเสนอราคาพร้อมขอบเขตงาน (Scope) ที่ชัด เพื่อให้คุณเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่นได้จริง
5. ก่อนยก ใช้เช็กลิสต์หน้างานร่วมกัน (แนะนำ Pre-lift checklist)

FAQ (6 ข้อ) สำหรับเช่ารถเครน

1) เช่ารถเครน คิดราคาแบบไหนบ้าง?

โดยทั่วไปพบทั้งแบบเหมาชั่วโมง, เหมาวัน, หรือเหมาระยะยาว (โครงการ) และบางกรณีอาจมีรูปแบบ “รวมวางแผน/รวมทีม” มากขึ้นตามความเสี่ยงหน้างาน
หากต้องเทียบความคุ้มค่าเชิงต้นทุนรวม แนะนำอ่าน รายวัน vs รายเดือน

2) ต้องเตรียมข้อมูลอะไรเพื่อขอใบเสนอราคา รถเครนให้เช่า ให้จบในครั้งเดียว?

อย่างน้อยควรมี: พิกัดหน้างาน, น้ำหนักชิ้นงาน, รัศมี/ความสูงโดยประมาณ, จำนวนจุดยก, รูปหน้างาน, และเงื่อนไขเวลา
หากหน้างานซับซ้อน ใช้เช็กลิสต์ RFQ ด้านบนจะช่วยให้ผู้ให้บริการตอบราคาได้แม่นยำขึ้น

3) เช่ารถเครน 4 ล้อ ต่างจากเครนล้อเยอะ (10–12 ล้อ) ในมุมราคาอย่างไร?

4 ล้อมักคล่องตัว เข้าเมือง/พื้นที่จำกัดง่าย และตั้งงานไว จึงคุมเวลาได้ดีในงานที่ “จบเร็ว”
แต่ถ้างานต้องรัศมีไกล/ยกสูง/มีสิ่งกีดขวางจนต้องอัปไซส์เครน ราคาจะขยับตามความเสี่ยงและข้อจำกัด ไม่ใช่ตามชื่อ “4 ล้อ” อย่างเดียว

4) กรณีพื้นอ่อนหรือทางเข้าโคลน ต้องใช้อะไรเพิ่ม และคิดราคาอย่างไร?

งานลักษณะนี้มักต้องใช้แผ่นรองขา/ทำทางชั่วคราว ซึ่งจะถูกคิดตามปริมาณ ระยะการปู และเงื่อนไขหน้างาน
ดูบริการ ให้เช่าแผ่นเหล็กปูทาง เพื่อเตรียมข้อมูลประกอบการขอราคาได้ทันที

5) ทำไมน้ำหนักชิ้นงานเท่าเดิม แต่ใบเสนอราคา ให้เช่ารถเครน ต่างกันมาก?

เพราะราคาไม่ได้ขึ้นกับน้ำหนักอย่างเดียว แต่ขึ้นกับรัศมี ความสูง สิ่งกีดขวาง การเข้าถึง การตั้งขา เงื่อนไขเวลา และข้อกำหนดด้านความปลอดภัย/การกั้นพื้นที่
หากมีความเสี่ยงใกล้สายไฟ แนะนำอ่าน ระยะปลอดภัยใกล้สายไฟ ก่อนขอราคา

6) ควรจองล่วงหน้านานแค่ไหน และงานด่วนทำได้หรือไม่?

โดยหลักควรจองล่วงหน้าเมื่อมี “คิวไซต์” และข้อจำกัดเวลา/พื้นที่ชัดเจน เพื่อให้เลือกขนาดเครนและทีมได้เหมาะสม
กรณีงานด่วน ให้ส่งพิกัด+รูปหน้างาน+เวลาที่ต้องการผ่าน Contact หรือ LINE เพื่อประเมินความเป็นไปได้ตามคิวและโซนบริการ