เช่ารถเครน 10–55 ตัน เลือกขนาดอย่างไรให้คุ้มงบ
คู่มือภาคสนามสำหรับผู้รับเหมาและวิศวกรหน้างาน: เลือกขนาดเครนจาก น้ำหนักจริงของชิ้นงาน + รัศมี (radius) + ความสูงยก + สภาพดินและลม พร้อมตัวอย่างคำนวณ ตารางแนะนำเบื้องต้น
โทรคุยวิศวกร: 098-748-3366
แชท LINE เพื่อขอราคา
ทำไมช่วง 10–55 ตันจึงคุ้มค่าสุด
งานก่อสร้างและโรงงานส่วนใหญ่ในเขตเมืองใช้ชิ้นงาน 0.5–12 ตัน เช่น Chiller, AHU, หม้อแปลง, ป้าย, โครงหลังคา, ตู้คอนเทนเนอร์ 20 ฟุต, เครื่องจักรขนาดกลาง ช่วงเครน 10–55 ตัน ให้สมดุลระหว่างความสามารถยก ความยืดหยุ่นของรัศมี และค่าขนส่ง—จึงครอบคลุมงานกว่า 80% ของเคสหน้างานทั่วไป หากวางแผนรัศมีและความสูงถูกต้อง คุณมักได้ราคาที่คุ้มกว่าการเรียกเครนใหญ่เกินจริง
สูตรเลือกขนาดเครนแบบ 7 ขั้น
- หาน้ำหนักรวมจริง = น้ำหนักชิ้นงาน + Rigging ทั้งหมด (สลิง ชุดยก โครงสเปรเดอร์ ฯลฯ) โดยตั้งค่าปลอดภัยเผื่อ 10–20% หากข้อมูลไม่ครบ
- กำหนดรัศมี (Radius) จากจุดหมุนเครนถึงแนวดิ่งของจุดยก รวมเผื่อแนวกันชน/สิ่งกีดขวาง
- กำหนดความสูง Hook ให้พ้นสันหลังคา/ขอบผนัง และเผื่อระยะสลิง
- เลือกชนิดเครน (Truck/All Terrain/Rough Terrain) ตามสภาพทางเข้าและพื้นที่ตั้ง
- ตรวจสภาพดินและฐานรอง Outrigger ประเมิน ground conditions และ allowable ground bearing pressure ก่อนกำหนดขนาดแผ่นรอง/แผ่นเหล็กปูทาง
- เช็คข้อจำกัดลม/สภาพอากาศ เทียบกับข้อกำหนดของผู้ผลิตในโหลดชาร์ต
- กันงบและเวลา เผื่อ Mobilization, ปิดถนน/ใบอนุญาต, รื้อเก็บ, และช่วงล่าช้า
ในสหรัฐฯ กำหนด “ground conditions” ชัดเจนในข้อ 1926.1402 ของ OSHA ว่านายจ้างต้องจัดพื้นที่รองรับเครนอย่างปลอดภัย รวมทั้งความลาดแนว การบดอัด และความแน่นของดิน ผู้ควบคุมงานต้องตรวจสอบและอนุมัติ (แนวทางนี้สามารถยึดเป็น best practice ในไทยได้) ดูรายละเอียด.
อ่านต่อ:
เช็กลิสต์เตรียมหน้างาน,
คู่มืออ่านโหลดชาร์ต,
คำนวณแผ่นเหล็กปูทาง,
รถเฮี๊ยบขนย้ายเครื่องจักร,
ลดต้นทุนด้วยแผ่นเหล็กปูทาง
ตารางแนะนำงานยอดฮิตกับขนาดเครน (เบื้องต้น)
งานยอดนิยม | น้ำหนักชิ้นงานโดยทั่วไป | รัศมี/ความสูงโดยทั่วไป | ขนาดเครนที่มักใช้ (ประเมิน) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
ยก Chiller/AHU ขึ้นดาดฟ้า | 2–6 ตัน | รัศมี 12–25 ม. / สูง 20–35 ม. | 25–40 ตัน | ต้องคุมลมและทางเข้าหลังอาคาร |
ยกตู้คอนเทนเนอร์ 20 ฟุต | 2–6 ตัน (ตามโหลด) | รัศมี 8–14 ม. | 16–35 ตัน | เผื่อระยะกันชนและพื้นรับแรง |
ติดตั้งเสา ป้าย โครงหลังคา | 1–4 ตัน/ชิ้น | รัศมี 10–20 ม. / สูง 12–30 ม. | 10–25 ตัน | ต้องเผื่อเงี่ยงลมและพื้นที่ตั้งขา |
ยกเครื่องจักรเข้าโรงงาน | 3–12 ตัน | รัศมี 8–16 ม. | 25–50 ตัน | คุมทางวิ่งและพื้นภายใน |
ตารางนี้เป็นแนวทางเบื้องต้น ต้องยึดโหลดชาร์ตรุ่นจริงของเครนและสถานการณ์หน้างานเสมอ
ตัวอย่างคำนวณ 2 เคสจริง
เคส A: ยก Chiller 3.2 ตัน ขึ้นดาดฟ้าสูง 24 ม. รัศมี 18 ม.
- น้ำหนักรวม + Rigging ~ 3.7 ตัน (เผื่อ 15%)
- ต้องใช้บูมให้ได้ hook height ≥ 26–28 ม.
- ตรวจโหลดชาร์ตเครน 25–35 ตัน ที่รัศมี 18 ม. ค่าความสามารถเหลือพอ
- สรุป: เริ่มประเมินที่เครน 35 ตัน เพื่อกันสำรองความปลอดภัยและลม
เคส B: ยกเครื่องจักร 8 ตัน เข้าช่องเปิดโรงงาน รัศมี 10–12 ม. สูง 8 ม.
- น้ำหนักรวม + Rigging ~ 9.2 ตัน
- พื้นที่ตั้งขาแคบ ต้องใช้ Outrigger เต็มระยะแต่ระวัง G.B.P.
- ประเมินเครน 40–55 ตัน เพื่อเหลือกำลังที่รัศมี 12 ม. และมุมบูมเหมาะสม
หมายเหตุ: ค่าจริงต้องอ้างอิง โหลดชาร์ตของรุ่นนั้น ๆ และข้อกำหนดผู้ผลิตเสมอ
ศึกษาวิธีอ่านโหลดชาร์ต: คู่มืออ่านโหลดชาร์ต
สภาพดิน Outrigger และ Ground Bearing Pressure
หลักสำคัญคือ ทำให้แรงจากขา Outrigger กระจายลงดินอย่างปลอดภัย โดยให้แรงกดจริง ≤ ค่าที่ดินรับได้ (allowable ground bearing pressure). แนวทางภาคสนามในสหรัฐฯ ใช้เครื่องมือ/ตารางช่วย เช่น ตารางกำลังรับน้ำหนักของดิน และแอป/ฐานข้อมูลคำนวณของผู้ผลิตแผ่นรองขา DICA เพื่อเลือกขนาดแผ่นรอง/แผ่นเหล็กให้เหมาะสม
ตัวอย่างการคำนวณ (อ้างอิงเคสสิ่งพิมพ์อุตสาหกรรม): ถ้าแรงที่ขา Outrigger = 140,000 ปอนด์ และดินรับได้ 2,500 psf จะต้องใช้แผ่นรองพื้นที่อย่างน้อย 56 ตารางฟุต เพื่อไม่ให้ดินทรุดตัว (สมมติฐานเชิงสาธิตจากสื่อเทคนิคในตลาดสหรัฐฯ). แนะนำให้ใช้ค่าเผื่อและตรวจสอบวิศวกรโครงสร้างเมื่อพื้นที่เสี่ยงยุบ. ที่มาอุตสาหกรรม
ภายใต้กฎ OSHA ข้อ 1926.1402 Ground Conditions ผู้ควบคุมงานต้องรับรองว่าสภาพดินรองรับเครนได้ รวมทั้งการบดอัดและระยะตกต่าง ยึดแนวทางนี้เป็น best practice สำหรับงานในไทยได้
อ่านต่อ: คำนวณจำนวนแผ่นเหล็กปูทาง
ลมและสภาพแวดล้อม
โหลดชาร์ตของผู้ผลิตส่วนมากกำหนด เงื่อนไขลมมาตรฐานราว 9 m/s ที่ปลายหัวบูมพร้อมกำหนดพื้นที่หน้าตัดลมของชิ้นงาน หากเจอลมสูง หรืองานมีพื้นที่รับลมมาก ต้องลดความสามารถยกตามตารางของรุ่นนั้น ๆ แนวทางผู้ผลิต. บางรุ่นระบุเพดานลมสูงกว่าในโหมดอุปกรณ์เฉพาะ (เช่น luffing jib) ตัวอย่างรุ่น
เตรียมหน้างานให้ปลอดภัย: เช็กลิสต์เตรียมหน้างาน
โครงสร้างราคาและวิธีคุมงบ
- ขนาดเครน: ความสามารถยกสูงขึ้น ราคา/ชั่วโมงจะสูงขึ้น
- ชั่วโมงใช้งาน: เหมาวันมักคุ้มกว่างานหลายจุดยก
- Mobilization/ขนส่ง: รถใหญ่ มักมีค่าขนส่งและใบอนุญาตมากขึ้น
- แผ่นรอง/แผ่นเหล็ก: จำเป็นเมื่อดินอ่อนหรือพื้นมีข้อจำกัด
- ปัจจัยพื้นที่: ปิดถนน/เครนเข้าได้ยาก ส่งผลเวลาและค่าแรง
สูตรกันงบเร็ว: (ค่าขนส่ง + ค่าเครนต่อชั่วโมง × ชั่วโมงงานจริง × 1.2) + ค่าแผ่นรอง/แผ่นเหล็ก + ค่าใบอนุญาต (ถ้ามี)
เลือกประเภทเครนที่เหมาะ
- Truck/All Terrain (10–55 ตัน): วิ่งถนนได้ดี เหมาะงานเมือง งานหลายจุด
- Rough Terrain: พื้นขรุขระหรือแคบ แต่ต้องขนส่งด้วยเทรลเลอร์
- Boom Truck/เฮี๊ยบติดเครน: งานเบาถึงกลาง เข้าพื้นที่ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ
เช็กลิสต์ข้อมูลที่ควรส่งก่อนขอราคา
- น้ำหนักจริงของชิ้นงาน/แบบและรูปถ่าย
- ระยะรัศมีและความสูงโดยประมาณ + แผนผังจุดตั้งเครน
- สภาพพื้น/ดิน หน้ากว้างทางเข้า พิกัดหน้างาน
- วัน‑เวลา, เงื่อนไขปิดถนน/ใบอนุญาต
- ต้องการแผ่นเหล็กปูทาง/แผ่นรองขาหรือไม่
FAQ: เช่ารถเครน 10–55 ตัน
1) ใช้สูตรเร็วอย่างไร ถ้าไม่รู้โหลดชาร์ตรุ่น?
เริ่มจากน้ำหนักรวมจริง + 10–20% เผื่อ แล้วเทียบรัศมีกับขนาดเครนในตารางแนะนำข้างต้น จากนั้นขอผู้ให้บริการเลือก “รุ่นจริง” และยืนยันด้วยโหลดชาร์ต
2) ต้องใช้แผ่นรอง/แผ่นเหล็กเมื่อใด?
เมื่อดินอ่อน พื้นมีโพรง หรือพื้นคอนกรีตไม่ทราบชั้นเหล็ก ควรใช้เสมอและคำนวณพื้นที่รองรับให้แรงกดจริงไม่เกินที่ดินรับได้ ตามแนวทาง DICA
3) ลมเท่าไรจึงยกไม่ได้?
อ้างอิงผู้ผลิตเป็นหลัก หลายรุ่นตั้งฐานที่ ~9 m/s และบางคอนฟิกกำหนดได้สูงกว่านี้ แต่ต้องอ่านตารางเฉพาะรุ่น
4) ทำไมเครนใหญ่กว่าเดิมทั้งที่น้ำหนักเท่าเดิม?
เพราะรัศมี/ความสูงเปลี่ยน หรือสภาพดิน/ลมทำให้ต้องกันสำรองมากขึ้น ความสามารถยกในโหลดชาร์ตลดลงตามระยะและมุม
5) อยากให้ลูกค้าใหม่หาเราเจอจากคำว่า “เช่ารถเครนใกล้ฉัน” ต้องทำอะไร?
ทำ GEO Landing รายพื้นที่ + ปรับหน้า Google Business Profile + ทำ Call Ads พร้อม Location assets และสร้างคอนเทนต์แบบ LLMO/FAQ ลึกเพื่อติด AI Overviews/AI Mode
แชท LINE เพื่อขอราคา
ใส่ความเห็น